ทำไมต้องใช้เครื่องคำนวณ Exness?

เครื่องคำนวณการซื้อขาย Exness เป็นเครื่องมือที่จำเป็นสำหรับการซื้อขาย มันจะทำการคำนวณที่สำคัญก่อนการทำธุรกรรม ได้แก่ มาร์จิ้น, ค่าใช้จ่ายของจุด และกำไรหรือขาดทุนที่อาจเกิดขึ้น ซึ่งจะช่วยให้การวางแผนการซื้อขายของคุณง่ายขึ้น
การใช้เครื่องคำนวณ Exness เป็นทางเลือกที่ชาญฉลาดสำหรับนักเทรดทุกคน เครื่องคำนวณนี้จะช่วยประหยัดเวลาและให้การคำนวณที่แม่นยำ ซึ่งจะลดความเสี่ยงในการซื้อขายของคุณ

คุณสมบัติหลักของเครื่องคำนวณ Exness

เครื่องคำนวณการซื้อขาย Exness มีคุณสมบัติที่มีประโยชน์มากมาย นี่คือคุณสมบัติหลักบางประการ:

  • พารามิเตอร์การคำนวณที่หลากหลาย: เครื่องมือนี้จะคำนวณโดยคำนึงถึงปัจจัยอื่น ๆ เช่น ประเภทบัญชี เครื่องมือที่ใช้ในการเทรด ขนาดล็อต และเลเวอเรจ เพื่อให้ผลลัพธ์ที่ถูกต้อง
  • อินเทอร์เฟซที่ใช้งานง่าย: หน้าจอนี้ถูกออกแบบมาให้ใช้งานได้ง่าย ไม่ว่าจะเป็นผู้เริ่มต้นหรือผู้ที่มีประสบการณ์ในการเทรด
  • ผลลัพธ์ทันที: คุณจะได้รับผลลัพธ์ทันทีหลังจากการเทรด รวมถึงกำไรที่เป็นไปได้ มาร์จิ้นที่จำเป็น ค่าพิพ และอัตราสว็อป
  • การจัดการความเสี่ยง: ช่วยให้คุณเห็นความเสี่ยงของแต่ละการทำธุรกรรมและวางแผนการเทรดด้วยการสูญเสียที่น้อยที่สุด
  • การปรับแต่งข้อมูลการคำนวณ: ผู้ใช้สามารถปรับแต่งข้อมูลการคำนวณตามสไตล์และความต้องการในการเทรดของตนเอง

พารามิเตอร์การคำนวณ 

เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ถูกต้อง คุณจำเป็นต้องเข้าใจพารามิเตอร์ที่ใช้ในเครื่องมือคำนวณ Exness นี่คือพารามิเตอร์หลัก:

  • ประเภทบัญชี: บัญชีแต่ละประเภทของ Exness มีเงื่อนไขที่แตกต่างกัน การรู้จักประเภทบัญชีของคุณจะช่วยให้การคำนวณแม่นยำขึ้น
  • เครื่องมือ: นี่คือสิ่งที่คุณกำลังเทรด เช่น คู่สกุลเงิน สินค้าโภคภัณฑ์ หรือดัชนี
  • ขนาดล็อต: นี่คือขนาดของการเทรดของคุณ ซึ่งมีผลต่อมาร์จิ้นและกำไรหรือขาดทุนที่เป็นไปได้
  • เลเวอเรจ: เลเวอเรจแสดงให้เห็นว่าคุณยืมเงินมาเทรดมากน้อยแค่ไหน เลเวอเรจที่สูงขึ้นหมายถึงความเสี่ยงที่สูงขึ้นเช่นกัน
  • ราคาซื้อและราคาขาย: นี่คือราคาที่คุณสามารถซื้อหรือขายเครื่องมือที่คุณกำลังเทรด
พารามิเตอร์การคำนวณ

วิธีใช้เครื่องมือคำนวณ Exness 

การใช้เครื่องมือคำนวณ Exness นั้นง่ายและสามารถช่วยให้คุณตัดสินใจในการเทรดได้อย่างมีข้อมูล ต่อไปนี้เป็นวิธีการใช้เครื่องมือนี้อย่างมีประสิทธิภาพ

ประเภทบัญชี

การเลือกประเภทบัญชี 

เริ่มต้นด้วยการเลือกประเภทบัญชีของคุณ Exness มีหลายตัวเลือกให้เลือก เช่น บัญชี Standard, Pro, Raw Spread และ Zero แต่ละประเภทบัญชีมีเงื่อนไขการเทรดที่แตกต่างกัน เช่น สเปรดและค่าคอมมิชชั่น ดังนั้นการเลือกประเภทบัญชีที่ถูกต้องจึงมีความสำคัญ ยกตัวอย่างเช่น หากคุณใช้บัญชี Raw Spread ควรเลือกตัวเลือกนี้ในเครื่องมือคำนวณเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่แม่นยำที่สุดตามสภาพแวดล้อมการเทรดของคุณ

การเลือกเครื่องมือและขนาดล็อต 

ขั้นตอนถัดไปคือการเลือกเครื่องมือการเทรดและขนาดล็อต เครื่องมือคำนวณ Exness รองรับเครื่องมือการเทรดหลายประเภท เช่น คู่สกุลเงินต่างประเทศอย่าง EUR/USD โลหะอย่าง XAU/USD (ทองคำ) และสกุลเงินดิจิทัลอย่าง BTC/USD (Bitcoin) หลังจากเลือกเครื่องมือแล้ว ให้ป้อนขนาดล็อตที่คุณต้องการเทรด ยกตัวอย่างเช่น หากคุณวางแผนที่จะเทรด 0.5 ล็อตของ XAU/USD ให้ป้อน “0.5” ในช่องขนาดล็อต

เครื่องมือเครื่องคิดเลข Exness

การตั้งค่าเลเวอเรจ 

เลเวอเรจที่คุณเลือกใช้ในการเทรดมีผลอย่างมาก คุณสามารถระบุเลเวอเรจที่คุณใช้งานในบัญชีการเทรดของคุณได้ ยกตัวอย่างเช่น หากบัญชีของคุณใช้เลเวอเรจ 1:200 ให้ป้อนค่านั้นในช่องเลเวอเรจ ระดับเลเวอเรจที่คุณใช้งานจะกำหนดจำนวนมาร์จิ้นที่ต้องใช้ และยังมีผลต่อกำไรหรือขาดทุนที่การเทรดของคุณจะได้รับด้วย

การคำนวณผลลัพธ์ 

หลังจากให้ข้อมูลทั้งหมดแล้ว ให้คลิกคำนวณเพื่อรับผลลัพธ์ เครื่องมือคำนวณจะให้ตัวเลขสำคัญ เช่น มาร์จิ้นที่ต้องการ, ค่าพิพ, และกำไรหรือขาดทุนที่เป็นไปได้ ตัวอย่างเช่น หากคุณกำลังเทรด 1 ล็อตของ EUR/USD ด้วยเลเวอเรจสูงกว่า 200 มาร์จิ้นที่ต้องการเปิดการเทรดอาจแสดงผลลัพธ์เป็น $500 นอกจากนี้ยังจะแสดงค่าพิพ ซึ่งจะแสดงให้คุณเห็นว่าเงินที่ได้หรือขาดทุนในแต่ละการเคลื่อนไหวของ 1 พิพในตลาดเป็นอย่างไร

เคล็ดลับสำหรับการคำนวณที่แม่นยำ 

เพื่อให้การใช้เครื่องมือคำนวณ Exness มีประสิทธิภาพมากที่สุด ควรปฏิบัติตามแนวทางดังต่อไปนี้:

การคำนวณที่แม่นยำด้วยเครื่องคำนวณ Exness
  1. ยืนยันข้อมูลที่ป้อน: ก่อนกดปุ่ม Enter ให้ตรวจสอบว่าคุณใส่ประเภทบัญชี เครื่องมือ ขนาดล็อต และเลเวอเรจอย่างถูกต้อง ความไม่ถูกต้องที่เกิดจากข้อผิดพลาดเล็กๆ น้อยๆ แต่สำคัญ อาจส่งผลต่อผลลัพธ์
  2. ราคาตลาดตามเวลาจริง: ใช้ราคาตลาดปัจจุบันเมื่อทำการคำนวณเพื่อให้คุณมีข้อมูลที่ทันสมัย ตลาดอาจมีความผันผวนและข้อมูลที่ทันสมัยเป็นสิ่งสำคัญ
  3. รู้จักพารามิเตอร์ของคุณ: เข้าใจว่าพารามิเตอร์แต่ละตัวทำอะไรและมีผลต่อการคำนวณอย่างไร ซึ่งจะช่วยให้คุณทำการเทรดได้ดีขึ้น
  4. ป้อนตัวเลขที่เหมาะสม: ป้อนตัวเลขที่เหมาะสมกับกลยุทธ์และเป้าหมายการเทรดของคุณ หลีกเลี่ยงการใส่ค่าที่สุดขั้วที่ไม่สอดคล้องกับแผนการเทรดของคุณ
  5. วิเคราะห์ผลลัพธ์ของคุณ: ตรวจสอบผลลัพธ์อย่างละเอียด ตรวจสอบว่ากำไรที่เป็นไปได้ มาร์จิ้น และรายละเอียดอื่นๆ สอดคล้องกับความคาดหวังและกลยุทธ์ของคุณ

การทำความเข้าใจผลลัพธ์จากเครื่องมือคำนวณ Exness 

เมื่อคุณใช้เครื่องมือคำนวณ Exness คุณจะได้รับข้อมูลสำคัญเกี่ยวกับการเทรดของคุณ คู่มือสั้น ๆ ในการทำความเข้าใจผลลัพธ์:

ค่าธรรมเนียมสเปรด (Spread Cost) 

ค่าธรรมเนียมสเปรดคือส่วนต่างระหว่างราคาซื้อและขายของเครื่องมือการเทรดที่เฉพาะเจาะจง มันอาจถูกมองว่าเป็นค่าธรรมเนียมการเทรด ค่าธรรมเนียมนี้จะถูกคิดสำหรับแต่ละการเทรดและจะแสดงในเครื่องมือคำนวณเพื่อให้คุณทราบว่าคุณต้องเสียค่าธรรมเนียมเท่าไหร่ในการทำการเทรดแต่ละครั้ง

ค่าคอมมิชชั่น (Commission) 

ค่าคอมมิชชั่นคือค่าธรรมเนียมที่โบรกเกอร์อาจเรียกเก็บสำหรับแต่ละการเทรด เครื่องมือคำนวณ Exness จะบอกคุณว่ามีค่าคอมมิชชั่นหรือไม่และอัตราของมันเป็นเท่าใด การทราบข้อมูลนี้จะช่วยให้คุณเข้าใจต้นทุนรวมของการเทรดของคุณ

ค่าพิพ (Pip Value)

ค่าพิพคือจำนวนเงินที่คุณทำหรือเสียต่อการเคลื่อนไหวของราคาหนึ่งพิพ เครื่องมือคำนวณจะคำนวณค่าพิพตามขนาดล็อตและเครื่องมือการเทรดของคุณ การรู้ค่าพิพจะช่วยให้คุณทราบว่าจะได้กำไรหรือขาดทุนเท่าไหร่ในการเทรด

การใช้ Exness Trade Calculator สำหรับการจัดการความเสี่ยง

เครื่องมือคำนวณ Exness Trade Calculator มีประโยชน์อย่างมากสำหรับการจัดการความเสี่ยงในการเทรดของคุณ ช่วยให้คุณเห็นสิ่งที่จะเกิดขึ้นก่อนที่คุณจะทำการเทรด นี่คือวิธีที่มันสามารถช่วยคุณได้:

  • วางแผนการเทรดของคุณ: คุณสามารถลองตั้งค่าต่างๆ เพื่อดูว่าการเปลี่ยนแปลงนั้นมีผลต่อการเทรดของคุณอย่างไร สิ่งนี้ช่วยให้คุณวางแผนได้ดีขึ้น
  • ตั้งค่า Stop Loss และ Take Profit: เครื่องมือคำนวณนี้ทำให้คุณสามารถตั้งค่า Stop-Loss (เพื่อลดการขาดทุน) และ Take-Profit (เพื่อล็อกกำไร) ได้ดีที่สุด เพื่อให้เงินของคุณปลอดภัย
  • เข้าใจความเสี่ยง/รางวัลของคุณ: เครื่องมือนี้ช่วยให้คุณตัดสินใจว่าควรทำการเทรดหรือไม่ โดยพิจารณาจากความเสี่ยงและผลตอบแทนที่อาจเกิดขึ้น สิ่งนี้ช่วยให้คุณทำการเทรดที่มีข้อมูลและปลอดภัยมากขึ้น

การเปรียบเทียบสถานการณ์การเทรดที่แตกต่างกัน 

การทราบว่าสถานการณ์การเทรดที่เฉพาะเจาะจงสามารถส่งผลต่อรายได้ของคุณได้อย่างไรมีความสำคัญอย่างยิ่งต่อการตัดสินใจของคุณ ด้วยความช่วยเหลือจากเครื่องมือคำนวณ คุณสามารถพิจารณาสถานการณ์ต่างๆ ได้

ลองนึกภาพว่าคุณกำลังเทรดคู่สกุลเงิน EUR/USD แต่มีเลเวอเรจและขนาดล็อตที่แตกต่างกัน:

พารามิเตอร์สถานการณ์ที่ 1สถานการณ์ที่ 2
เครื่องมือEUR/USDEUR/USD
ขนาดล็อต1 ล็อต0.5 ล็อต
เลเวอเรจ1:1001:500
ประเภทบัญชีStandardPro
มาร์จิ้นที่ต้องการ$1,000$100
ค่าพิพ$10 ต่อพิพ$5 ต่อพิพ
กำไร/ขาดทุนที่เป็นไปได้$100 ต่อการเคลื่อนไหว 10 พิพ$50 ต่อการเคลื่อนไหว 10 พิพ

การวิเคราะห์สถานการณ์ 

ในสถานการณ์ที่ 1 คุณกำลังเทรด 1 ล็อตของ EUR/USD ด้วยเลเวอเรจ 1:100 บนบัญชี Standard มาร์จิ้นที่ต้องการสำหรับการเทรดนี้คือ $1,000 และการเคลื่อนไหวของพิพแต่ละครั้งมีมูลค่า $10 ซึ่งหมายความว่าสำหรับการเคลื่อนไหวของตลาด 10 พิพ กำไรหรือขาดทุนของคุณจะอยู่ที่ $100

ในสถานการณ์ที่ 2 คุณกำลังเทรด 0.5 ล็อตของ EUR/USD ด้วยเลเวอเรจที่สูงขึ้น 1:500 บนบัญชี Pro ที่นี่ มาร์จิ้นที่ต้องการลดลงเหลือ $100 และการเคลื่อนไหวของพิพแต่ละครั้งมีมูลค่า $5 ดังนั้นสำหรับการเคลื่อนไหวของตลาด 10 พิพ กำไรหรือขาดทุนของคุณจะอยู่ที่ $50

การเปรียบเทียบผลลัพธ์

ตัวเลือกเลเวอเรจและขนาดล็อตในสถานการณ์เหล่านี้แสดงให้เห็นว่าการเทรดสามารถส่งผลต่อการเทรดของคุณได้อย่างไร เลเวอเรจที่สูงขึ้นหมายถึงมาร์จิ้นที่ต่ำลง ขนาดล็อตที่น้อยลงหมายถึงกำไรที่น้อยลง แต่ความเสี่ยงก็น้อยลงเช่นกัน การปรับเปลี่ยนเหล่านี้จะช่วยให้คุณทราบว่าสถานการณ์การเทรดที่แตกต่างกันอาจส่งผลอย่างไร โดยใช้เครื่องมือคำนวณ Exness เพื่อเทรดอย่างชาญฉลาด

ทดลองใช้เครื่องคำนวณการซื้อขายตอนนี้

คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับ Exness Calculator

วิธีคำนวณมาร์จิ้นโดยใช้เครื่องมือคำนวณ Exness ทำอย่างไร?

สิ่งที่คุณต้องทำคือป้อนประเภทบัญชี เครื่องมือในการเทรด ขนาดล็อต และเลเวอเรจ เครื่องมือคำนวณจะบอกคุณถึงจำนวนมาร์จิ้นที่ต้องการสำหรับการเทรดของคุณ

ต้นทุนสเปรดคืออะไรและกำหนดอย่างไรในการเทรดกับ Exness?

เครื่องมือคำนวณ Exness ช่วยในการเข้าใจค่าคอมมิชชั่นอย่างไร?

วิธีคำนวณค่าพิพโดยใช้เครื่องมือคำนวณการเทรด Exness ทำอย่างไร?

สว็อปแบบ Long และ Short ในการเทรดกับ Exness คืออะไร?